มีบางท่านบอกว่าพระจับเงินไม่ได้ คนที่นับถือพุทธศาสนาที่แท้ ต้องไม่ให้เงินพระ เดี๋ยวพระเอาไปใช้ในทางที่ไม่ดี นี่เป็นการดูถูกวิจารณญาณพระโดยแท้ ลองมาดูเรื่องดรามา "ห้ามพระจับเงิน" จาก อ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์
ห้ามพระแตะเงิน แต่ไม่ลังเลที่จะใช้มัน โดยเฉพาะเงินคนอื่นหรือไม่ นี่คือทัศนะสุดเพี้ยนของ อ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์หรือไม่ แถมขี้คุยอีกหรือไม่ ท่านบอกว่าท่านเป็นคนส่งพระไพศาล วิสาโล ไปอังกฤษ พระไพศาลต้องมีคนใช้ (ลูกศิษย์) ไปด้วย ไปช่วยชำระเงิน เพราะตนเองแตะเงินไม่ได้ (http://bit.ly/1WJWmpn) ข้อนี้ฟังผิวเผิน ก็จะรู้สึกได้ว่า พระไพศาลเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ไม่แตะต้องเงินทองอะไรเลย
แต่หากคิดให้ดีในอีกทางหนึ่ง จะต้องทบทวนว่า ความคิดและการปฏิบัตินี้เหมาะสมกับยุคสมัยหรือไม่ เนื้อหาสาระใจกลางของกรณีศึกษานี้ก็คือ
ยิ่งกว่านั้นในอีกแง่หนึ่งเป็นการดูถูกความคิดอ่านของพระ คิดอย่างเดียวว่าพระจะเอาเงินไปใช้ในทางเสื่อมเสีย หรือเอาไปใช้ส่วนตัว การโกงเงินวัดก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ต้องตรวจสอบ แต่การตึงเกินไป ยึดถืออะไรที่คร่ำครึ ไม่เหมาะสมกับยุคสมัยเกินไป ก็คงไม่ถูกต้อง การจับเงินเป็นแค่อาการที่แสดงออก แต่การถือครองเงินก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ก็ยังเคยบริจาคเงินส่วนพระองค์ 1.615 ล้านบาท (http://bit.ly/2zeFuBN) และต่อมายังบริจาคเงินส่วนพระองค์อีก 200 ล้านบาทเพื่อสร้างอาคารในโรงพยาบาล (http://bit.ly/2gM8ryn) เป็นต้น
ผมได้แปะข้อความทำนองนี้วิพากษ์ความคิดของอาจารย์สุลักษณ์ และมีผู้มาแสดงความเห็น (http://bit.ly/2kyzos6) จึงขอนำส่วนหนึ่งมาเพื่อเป็นข้อคิด ดังนี้:
พระชัยมงคล ชยมงคโล: . . .ว่างๆ (อ.สุลักษณ์) ไปส่องแถวขนส่ง สถานีรถไฟดูว่า พระขึ้นรถฟรีไหม ไป รพ.ฟรีไหม ไปฉันตามร้านค้าฟรีทุกที่ไหม เจ็บป่วยพระไปซื้อยาตามร้าน คลีนิคฟรีไหม เข้าห้องน้ำตามสถานีขนส่ง สถานีรถไฟทั่วประเทศ ไปดูฟรีไหม. . .จะมีโยมสักกี่คนที่จะคอยดูแลพระสงฆ์ได้ตลอด เศรษฐีที่จะมีใจทำบุญเหมือนพระนางสุชาดา นางวิสาขา หรืออนาถบิณฑิกเศรษฐียุคนี้หาไม่มี ห้ามพระจับเงินจับทอง แต่จับกระดาษได้ทุกอย่างเป็นสิ่งสมมุติทั้งนั้น
Jeabby Tg: อันนี้ไปกันใหญ่แล้ว นี่มันยุคไหนแล้วลุง???? จะเผยแพร่ศาสนากันยังไง แค่กฎเกณฑ์มากมาย ของพระสงฆ์เรา ก็เป็นช่องโหว่ ให้ศาสนาอื่นกลั่นแกล้ง แล้วยังห้ามพระถือเงิน แล้วจะเผยแพร่ศาสนากันยังไง สมัยพุทธกาล นั้นมันยุค ต้นๆๆที่ยังไม่มีสกุลเงิน ไปไหนยังเดินเท้าอยู่เลยลุง ลุงต้องหลงยุคมาแน่เลย ความคิดลุงนี่ มันคงมากจากพุทธกาลแน่เลย ยุคนี้ยุคดิจิตอลแล้ว ค่ะ โอ้ย!!! เหนื่อยใจจัง
ศัทธาแรงกล้า บารมีคุ้มกาย: ถ้าพระไม่ต้องมีเงินดีครับ..แต่ ค่าน้ำค่าไฟ ค่ารถ ค่าเล่าเรียน ของพระภิกษุ สามเณร เครื่องบริขารต่างๆ หากจำเป็นต้องใช้ บางครั้งต้องซื้อ และพระหนึ่งวัดมีกี่รูป ทั่วประเทศ ล่ะมีเท่าไหร่ใครจะคอยไปเป็นธุระให้ บางครั้งพระต้องไปซื้อเองหรือท่านจะอาสาพูดง่ายๆ คิดให้ลึกๆหน่อย ผมอยากเสนอค่าใช้จ่ายสำหรับพระ เณร การศึกษา รัฐควรจะเข้ามาดูแลให้มากกว่านี้
Sakorn Jansamud: ส.ศิวรักษ์ น่าจะมาบวชเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา แล้วทำได้อย่างสมองคิด &ปากพูด ก็น่าจะเป็นบุญแก่พระศาสนายิ่งนัก ลูกหลาน ส.ศิวรักษ์ ที่มาบวช พากันบวชได้กี่พรรษา ทำได้อย่างที่พูดไหม สมัยนี้...แค่พระลืมจ่ายค่าน้ำค่าไฟ 15 วัน การไฟฟ้ามาตัดไฟที่กุฏิแล้ว นี้ไม่ใช่สมัยกรุงศรีอยุธยา โลกมันหมุนไปไวกว่าที่คิด ท่านอย่าเดินย่ำอยู่กับที่ ทางไหนที่มันไม่แย่จนเกินไป ถ้าจำเป็นที่จะต้องเดิน พระสงฆ์องค์เณรท่านก็ต้องเดิน เพื่อดำรงไว้ซึ่งพระศาสนา
Apichai Mittparian: ทำอะไรให้แตกต่าง แล้วอวดโว ดีวิเศษกว่า ทั้งหลายล้วนเปลือก ที่หามาเติมแต่ง...แทนที่จะเข้าใจ แท้จริงชี้แนะอะไร ไปกำหนดอะไรให้กดตัวให้จมดิ่ง มากกว่าการปล่อยวางให้ลอยตัว...ขำๆ ความโง่เขลา ที่พยายามให้โดดเด่น เหนือธรรมชาติ...หมา แมว ทำตามธรรมชาติ แค่เลียขนก็สะอาดแล้ว..
ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มี
" อดิเรก ศรีประทักษ์" 54 ปี กับครอบครัว ซีพี
อาจหาญ ทรนง! ทูตเมียนมาประจำUN ชู3นิ้วกลางที่ประชุม193ชาติ
15 อันดับบ้านแพงที่สุดในไทย แพงสุด 260 ล้านบาท!
วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ ขยับตำแหน่งมุ่งสร้างธุรกิจใหม่ เปิดทางลูกหม้อขึ้นบริหารงานแทน
"เสี่ยหนู"เป็นประธานพิธีลงนาม รถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย ศรีรัช–เมืองทองธานี